เคยส่งสัยไหมครับ ว่า LCD กับ LED คืออะไรและต่างกันยังไง วันนี้มาหาคำตอบกันครับ โลกพัฒนาไปเร็วจนบางทีเราก็ตามไม่ทันครับ สมัยก่อน เป็นทีวีขาวดำจอเล็กๆ ต่อมาก็เป็นทีวีสีจอตู้ฐานใหญ่ๆ จนยุคนี้ ทีวี หรือจอมอนิเตอร์ ที่เราเห็นกันทุกวันนี้มีหน้าจอที่ใหญ่และบางมาก ที่ปัจจุบันนี้เราเรียกว่า TV LCD กับ TV LED มันต่างกันยังไงมาดูกันเลยครับ
![](https://siamtech.biz/wp-content/uploads/2022/02/eletronic-department-store-show-television-tv-home-appliance-with-bokeh-light-blurred-background-1199x800-1-1024x683.jpg)
LCD ย่อมาจาก Liquid Crystal Display ใช้เทคโนโลยีที่ใช้การส่องสว่างจากด้านหลังของจอภาพ โดยใช้หลอดส่องสว่าง CCFL (Cold Cathode Fluorescent Lamp) ให้สีสันที่สมจริง ใช้หลอดไฟขนาดเล็กๆที่มีสารปรอทเป็นส่วนผสมในการผลิต ทำงานร่วมกับ Color Filter ทั้ง 3 สีแดง น้ำเงิน และเขียว เพื่อแสดงผลออกมาเป็นสีสันต่างๆ
LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode ใช้เทคโนโลยีที่ใช้การส่องสว่างจากด้านหลังของจอภาพเหมือนกันครับ ให้ความสดใสของสีและภาพคมชัดกว่า เนื่องจากหลอดที่ใช้เปลี่ยนเป็นหลอด LED หรือเรียกว่า ไดโอดเปล่งแสง ซึ่งเป็นตัวนำให้เกิดการเปล่งแสงออกมาเมื่อมีไฟฟ้าไหลผ่าน มีอายุการใช้งานที่มากกว่า และใช้พลังงานที่น้อยกว่า
![](https://siamtech.biz/wp-content/uploads/2022/02/LCD-98A-01-1300x792-1-1024x624.jpg)
LED
![](https://siamtech.biz/wp-content/uploads/2022/02/LCD-98A-02-1300x792-1-1024x624.jpg)
LCD
เรามาสรุปกันครับว่า ทั้ง LCD และ LED ต่างกันอย่างไร และดีกว่ากันอย่างไร
ข้อเสีย LCD
- LCD ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะมีสารปรอทเป็นส่วนผสมในการผลิต
- มีความร้อนที่สูงกว่า LED
ข้อดี LCD
- ให้สีสันที่สมจริง
- ราคาที่ถูกกว่า LED
ข้อดี LED
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีสารปรอทเป็นส่วนผสมในการผลิต
- แสดงสีสันและความคมชัดได้ดีกว่า LCD
- ประหยัดพลังงานกว่า LCD
- ใช้ได้ยาวนานกว่า LCD
ข้อเสีย LED
- ราคาที่แพงกว่า
ข้อดีข้อเสียก็สรุปกันออกมาแล้วนะครับ ว่าอันไหนคุ้มค่ากว่ากัน ลองตัดสินใจกันดูนะครับ ว่าจะเลือกแบบไหน